รายละเอียดในคดี:

คดีนี้มีการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทไทยและบริษัทจากต่างประเทศ ซึ่งสมาชิกในกลุ่มกิจการร่วมค้าได้ร่วมกันประมูลโครงการและได้ชนะผลการประมูล เป็นโครงการก่อสร้างรถเครนเคลื่อนที่ ให้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่ารวมของสัญญากว่า 100,000,000 บาท

ต่อมาสมาชิกในกิจการร่วมค้าได้ประสบปัญหาภายในกิจการร่วมค้า และได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันเป็นจำนวนมากกว่า 15 คดี ใช้ระยะเวลาการต่อสู้คดีมากกว่า 10 ปี โดยมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งคดีนี้ที่มีข้อพิพาททางกฎหมายกันที่ยืดเยื้อ มีความสลับซับซ้อน และจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางกฎหมายหลากหลายสาขา ซึ่งรวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ, กระบวนการกฎหมายล้มละลายระหว่างประเทศ และการมีผลบังคับใช้ของกฎหมายระหว่างประเทศ

ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับ:

พวกเราเข้าใจถึงขั้นตอนและวิธีการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งในคดีนี้ได้มีการนำผลของคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการจากประเทศสิงคโปร์มาใช้บังคับภายในประเทศไทย และมีการนำมูลหนี้อื่นๆ ซึ่งเป็นมูลหนี้จากต่างประเทศมาใช้บังคับชำระหนี้สินภายในประเทศไทยด้วย และเป็นการยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ซึ่งทางเราได้มีการโต้แย้งคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีเกี่ยวกับผลการตัดสินที่อนุญาตให้คู่กรณีได้ชำระหนี้เกินกว่าสิทธิที่ควรได้รับ เราจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการทางด้านอนุญาโตตุลาการ การบังคับคดี การบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และกระบวนการทางกฎหมายล้มละลาย ที่มีความสลับซับซ้อนได้เป็นอย่างดี และพวกเราพร้อมที่จะสามารถปกป้องสิทธิของลูกความของเราอย่างเต็มที่